ไทม์ไลน์การรับมือกับโควิดที่นิวซีแลนด์ | How the Covid-19 Situation has evolved in New Zealand
ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเกาะอยู่ห่างไกลจากแผ่นทวีป โควิด-19 จึงเดินทางไปถึงนิวซีแลนด์ช้ากว่าในภูมิภาคอื่นๆของโลก
ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายปลายเดือนมกราคม ในวันที่ 31 ม.ค. ซึ่งตรงกับวันแรกของการเปิดเรียนของโรงเรียนมัธยม เป็นช่วงเวลาที่จีนเริมมีจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นแตะหลักหมื่นคน นิวซีแลนด์จัดเตรียมเที่ยวบินพิเศษของแอร์นิวซีแลนด์ไปรับพลเมืองนิวซีแลนด์ที่ตกค้างอยู่ในเมืองอู่ฮั่นและเมืองใกล้เคียง
สามวันหลังจากนั้นในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศห้ามผู้เดินทางมาจากหรือทรานสิทที่จีนเข้าประเทศ ยกเว้นในกรณีที่เป็นพลเมืองนิวซีแลนด์เดินทางกลับ
ปฏิบัติการอพยพพลเมืองนิวซีแลนด์และครอบครัวออกจากจีนเริ่มขึ้นในวันที่ 31 มกราคม และสิ้นสุดลงในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ผู้เดินทางชาวนิวซีแลนด์ที่ได้รับการอพยพกลับประเทศจำนวน 193 คนถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ที่ฐานทัพเรือแห่งหนึ่งในเมืองทางตอนเหนือของนครโอ๊คแลนด์
ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทั่วโลกมีจำนวนผู้ติดเชื้อ 79,331 คน ในจำนวนนี้ 2,069 คนอยู่นอกประเทศจีน วันถัดมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอิหร่านมีผลเทสต์โควิด-19 เป็นบวก ในขณะที่อิหร่านเริ่มมีปัญหาอย่างหนักในการควบคุมโรค
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2020 เป็นวันแรกที่เกิดปรากฏการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่นอกประเทศจีน (459) สูงกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในจีน (412) จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในอิตาลี อิหร่าน และเกาหลีใต้ พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ นิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อ Covid-19 คนแรกของประเทศ เป็นพลเมืองนิวซีแลนด์ที่เดินทางกลับจากเยี่ยมญาติพี่น้องที่อิหร่าน ในวันเดียวกันนั้นนิวซีแลนด์ออกประกาศห้ามผู้ที่เดินทางมาจากอิหร่านเข้าประเทศ
29 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเริ่มกระบวนการคัดกรองผู้โดยสารที่มากับเที่ยวบินตรงจาก 5 ประเทศ คือ ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และ ไทย ในโอ๊คแลนด์เกิดปรากฏการณ์ Panic buying ที่ผู้คนพากันออกไปซื้อหาข้าวของเครื่องใช้จากซูเปอร์มาร์เก็ตในปริมาณมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ของที่หมดไปจากชั้นในซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างรวดเร็วได้แก่กระดาษชำระ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือสำหรับฆ่าเชื้อโรค และอาหารกระป๋อง
1 มีนาคมออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกาประกาศผู้เสียชีวิตรายแรกของตน วันถัดมาจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลก เพิ่มขึ้นเป็น 3,000 คน
วันอังคารที่ 3 มีนาคม 2020 | TUESDAY 3 MARCH 2020
- ยังคงแบนผู้เดินทางจากจีนและอิหร่าน (จัดเป็นประเทศกลุ่ม 1a - ห้ามเข้า)
- นิวซีแลนด์ยังได้ประกาศให้ผู้ที่เดินทางมาจากอิตาลีทางตอนเหนือและเกาหลีใต้ ต้องกักตัว 14 วัน (จัดเป็นประเทศกลุ่ม 1b - เข้าได้แต่ต้องกัก)
- ไทยอยู่ในประเทศกลุ่มที่ 2 ร่วมกับประเทศที่เป็น Hot Spot อีก 4 ประเทศ (ยังคงเข้าได้ ไม่ต้องกักตัว แต่ถือเป็นประเทศที่ทางการนิวซีแลนด์เฝ้าระวัง)
- ในช่วงนี้นักศึกษาจีนที่ต้องการเดินทางเข้าออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แต่ถูกแบนไม่ให้เข้าประเทศ ได้ใช้ไทยเป็นฐานกักตัว โดยมาเที่ยวและเก็บตัว (หรือไม่เก็บตัว) ที่ไทย เป็นเวลา 14 วัน ก่อนจะบินต่อไปยังนิวซีแลนด์ เพื่อมีหลักฐานให้ทางการนิวซีแลนด์เห็นว่าเขาได้ใช้เวลา 'นอกประเทศจีน' ครบ 14 วันแล้วโดยไม่มีอาการ
- มีเหตุผลที่ทำให้เชื่อได้ ว่าการที่นักศึกษาจีนเข้านิวซีแลนด์โดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน ทำให้ไทยถูกขึ้น Watch List Category 2 ทั้งๆ ที่ในขณะนั้นไทยมีผู้ติดเชื้อจำนวนน้อยมากกว่าประเทศ Hot Spot อื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และสิงคโปร์ อย่างเห็นได้ชัด
- โดยจำนวนผู้ติดเชื้อในไทยนับถึงวันที่ 1 มีนาคม 2020 มีเพียง 42 คน และไทยเพิ่งจะมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นรายแรกในวันที่ 1 มีนาคม
วันที่ 4 มีนาคม 2020
มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นคนที่สองของนิวซีแลนด์ เป็นหญิงโอ๊คแลนด์วัยสามสิบเศษที่เพิ่งเดินทางกลับจากอิตาลีทางตอนเหนือ
วันที่ 5 มีนาคม 2020
เกิดการติดต่อระหว่างคนสู่คนเป็นครั้งแรกในนิวซีแลนด์ เมื่อมีสมาชิกในครอบครัวของผู้ติดเชื้อคนที่ 1 เป็นผู้ติดเชื้อใหม่รายที่ 3
ผู้ติดเชื้อรายที่ 4 - 6 ปรากฎขึ้นในช่วงเวลา 9 วัน ระหว่างวันที่ 6-14 มีนาคม
โดยคนที่ 4 และ 5 เป็นสมาชิกในครอบครัวของผู้ติดเชื้อสามคนแรก ส่วนคนที่หกเดินทางกลับจากต่างประเทศและรับเชื้อมาจากสหรัฐอเมริกา
7 มีนาคม จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึงหลักแสน อยู่ที่ 101,927 คน
8 มีนาคม มีผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
อิตาลีเตรียมพร้อมที่จะประกาศล็อคดาวน์บางส่วนของประเทศ ได้แก่แคว้นลอมบาร์ดี้และจังหวัดอื่นๆ อีก 11 จังหวัดในภาคเหนือและตะวันออกของประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชากรราว 16 ล้านคน สองวันต่อมา ในวันที่ 10 มีนาคม นายกรัฐมนตรี จิโอเซปเป้ คอนเต้ ประกาศล็อคดาวน์อิตาลีทั้งประเทศ
11 มีนาคม องค์การอนามัยโลก (WORLD HEALTH ORGANISATION) ประกาศให้ Covid-19 เป็นโรคระบาดใหญ่ (Pandemic)
- โดย #7 เป็นนักท่องเที่ยวสาวชาวเดนมาร์คเดินทางผ่านมาทางกรุงโดฮา ประเทศ UAE
- ส่วน #8 เป็นนักท่องเที่ยวสามีภรรยาชาวออสเตรเลียที่เดินทางมาจากบริสเบนและมีประวัติเดินทางไปยุโรป
- ที่พีค คือผู้ชายคนนี้ก่อนออกจากออสเตรเลียได้ไปตรวจโควิด-19 แต่ยังไม่ทันทราบผลตรวจก็เดินทางมาเที่ยวนิวซีแลนด์ต่อและมาป่วยหนักที่นี่ (และป่วยที่ไหนไม่ป่วย ดันไปป่วยที่เวลลิงตัน เมืองหลวงของนิวซีแลนด์ ใต้ปลายจมูกนายกฯ เรื่องนี้ทำให้ทางการเวลลิงตัน "ควันออกหู" เลยทีเดียว)
วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2020 | MONDAY 16 MARCH 2020
มีความเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญ ในแวดวงการศึกษา บริษัทประกัน และ Influencer ด้าน Public Health , City Councils เริ่มปิดสถานที่สาธารณะ
กระทรวงศึกษาธิการนิวซีแลนด์
ให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงติดต่ออาจารย์ใหญ่ทุกโรงเรียน เป็นการหยั่งเชิงถามความพร้อมถ้าจะต้องมีการปิดโรงเรียนแล้วเปิดสอนออนไลน์ ให้แต่ละโรงเรียนรายงานกลับมาว่ามีนักเรียนกี่คนที่ไม่มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตที่บ้าน
ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณสุข
ศ. ดร ไมเคิล เบเคอร์ อาจารย์สอน Public Health ที่ มหาวิทยาลัยโอทาโก้ ออกมาเปรยกับสื่อว่า โรคระบาดรอบนี้น่าจะกินเวลายาวนาน ใครที่บอกว่าจะจบก่อนคริสต์มาส ให้ถามตัวเองใหม่ ว่าคริสต์มาสปีนี้หรือคริสต์มาสปีหน้า! เพราะต่อให้นิวซีแลนด์คุมโรคได้ในรอบนี้ ก็ใช่ว่าโรคจะไม่มีโอกาสกลับมาระบาดอีก ตราบใดที่ประเทศต่างๆ ยังมีเวฟสองกันเป็นระลอก และยังปล่อยให้มีคนเดินทางเข้า
บริษัทประกันเริ่มอ่อนข้อ หลังจากรู้ว่ารัฐจ่ายแน่ให้เด็กอินเตอร์ที่ป่วยโควิด-19
ซึ่งก่อนหน้าที่ WHO จะประกาศให้เป็น Pandemic การที่ประกันไม่จ่ายทุกกรณีที่ติด Covid-19 ไม่ว่าจะรับเชื้อระหว่างการเดินทางหรือเมื่อเดินทางมาเรียนที่นิวซีแลนด์ ส่งผลให้ Education Agency หลายบริษัท จำเป็นต้องยกเลิกการเดินทางกรุ๊ปนักเรียนระยะสั้นจากไทย เพราะในความเป็นจริงถ้าหากเดินทางไปแล้วติด ในทางปฏิบัติก็คงไม่ได้สามารถขึ้นเครื่องกลับมารักษาที่ไทยได้ด้วยซ้ำ ก็คงต้องรักษาในนิวซีแลนด์เท่านั้นจนกว่าจะพ้นขีดอันตราย ทีนี้ถ้าประกันไม่จ่าย รัฐบาลไม่จ่าย ก็เกิดคำถามแล้วใครจะจ่าย ยิ่งมีข้อมูลว่าค่ารักษาเคสโควิดเฉลี่ยเคสละหนึ่งล้านบาท ใครฟังก็ต้องสยองเป็นธรรมดา แต่พอ WHO ประกาศเป็น Pandemic ก็เป็นการปลดล็อคเรื่องค่ารักษาพยาบาล (สามารถรับบริการจากรัฐบาลนิวซีแลนด์) เสียดายที่ประกาศช้าเกินไป (กรุ๊ปส่วนใหญ่กำหนดออกเดินทาง 13-15 มีนาคม)
สำหรับนักเรียนอินเตอร์ที่เรียนในนิวซีแลนด์ระยะยาว และอยู่ในนิวซีแลนด์อยู่แล้วตั้งแต่ต้นปี 2020 การมีสิทธิ์เข้าถึงบริการทางการแพทย์ในนิวซีแลนด์ ทำให้เงื่อนไขการเอาประกันกับบริษัทประกันในนิวซีแลนด์ชัดเจนขึ้น ในวันนี้เริ่มมีสัญญาณบวกออกมาจากบริษัทประกัน อย่างน้อยบริษัทประกันสองแห่งในนิวซีแลนด์ คือ Allianz และ Orbit Protect รับประกันจะดูแลค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง สำหรับนักเรียนนักศึกษาต่างชาติที่เรียนในนิวซีแลนด์และทำประกันตั้งแต่สองสัปดาห์ขึ้นไป
โดยสิทธิ์พื้นฐาน นิวซีแลนด์มีโปรแกรมรักษาถ้วนหน้าแบบไม่เลือกปฏิบัติ ตาม Health Act 1956 ซึ่งระบุว่าในกรณีเกิดโรคติดต่อ (Infectious Disease) ทางรัฐบาลจะทำการตรวจวินิจฉัย รักษา ติดตามอาการ และทำ contact tracing ให้กับทุกคนที่อยู่ในนิวซีแลนด์ โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติ ประเภทของวีซ่า หรือระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในนิวซีแลนด์
According to Allianz บริษัทจะคุ้มครองการเรียกร้องค่าสินไหมสำหรับค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ (การไปพบแพทย์และการรักษาตัวในโรงพยาบาล) และค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน ที่เกี่ยวเนื่องกับโรคไวรัสโควิด-2019 สำหรับนักเรียนปัจจุบันทุกคนซึ่งอยู่ในนิวซีแลนด์ในปัจจุบัน รวมถึงนักเรียนใหม่ที่กำลังจะเดินทางมาศึกษาในนิวซีแลนด์ด้วย ไม่ว่ากรมธรรม์ของนักเรียนเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อไรก็ตาม
ซึ่งแนวคิดนี้ในช่วงหลังได้รับการขานตอบจากบริษัทประกันเจ้าอื่นๆ โดยถ้วนหน้า
CLOSING OF PUBLIC FACILITIES IN NEW ZEALAND
วันนี้ยังเป็นวันที่ City Council เริ่มประกาศมาตรการกระชับพื้นที่ โดยประกาศล่วงหน้าประมาณ 2-3 ชั่วโมง เริ่มจากเมือง Christchurch เป็นเมืองแรกของประเทศ โดยประกาศตอนเที่ยงและให้มีผลเวลา 4 โมงเย็น งดให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับชุมชนที่เป็นที่รวมของคนจำนวนมาก สถานที่ที่อยู่ในความดูแลของ City Council เช่น ห้องสมุด สนามเด็กเล่น พิพิธภัณฑ์ Art Gallery สระว่ายน้ำประจำเมืองและประจำอำเภอ ตำบล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นศูนย์สุขภาพขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยทั้งสระว่ายน้ำ ยิมเนเซี่ยม สถานที่เล่นโยคะ ฝึกซ้อมเรือแคนู วอเตอร์สไลด์ ฯลฯ
ถ้าเรายังจำกันได้ วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2020 | MONDAY 16 MARCH 2020
มีความสำคัญในฐานะเป็นวันแรกของการบังคับใช้มาตรการกักตัวถ้วนหน้า (Self-Isolation for ALL) รวมถึงชาวนิวซีแลนด์
ซึ่งได้มีการประกาศไปเมื่อ 14 มี.ค. และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 01.00 น. ของวันที่ 16 มี.ค. หรือตรงกับคืนวันอาทิตย์ที่ 15 มี.ค.
ภาพด้านขวาแสดงให้เห็นว่าขณะนี้นิวซีแลนด์ได้ "ล้างไพ่" โดยแบ่งประเทศต่างๆ ในโลกเสียใหม่อย่างเด็ดเดี่ยวตามมาตรฐานของตัวเอง
จากเดิมที่มีสามแบบและค่อนข้าง confusing เหลือเพียงแค่สองแบบเท่านั้น
นิวซีแลนด์ ประเทศเล็กๆ ในมหาสมุทรแปซิปิคที่เห็นเป็นเกาะกระจิ๊ดริดสองเกาะ อยู่ตรงสุดขอบแผนที่โลกทางขวา มาร์คตัวเองด้วยสีเทา ได้จัดแบ่งประเทศในโลกใบนี้ออกเป็นสองสี
- สีเขียว คือประเทศที่นิวซีแลนด์ยังยินยอมให้เดินทางเข้ามาได้แต่ต้องกักตัว ซึ่งก็คือทุกประเทศในโลก ยกเว้นจีนกับอิหร่าน
- ส่วนสีชมพูเข้มในภาพ คือจีนกับอิหร่าน ยังคงมาตรการห้ามเข้าเด็ดขาด
ในช่วงเย็นของวันนี้ นายกรัฐมนตรีที่คนนิวซีแลนด์ภูมิใจที่ได้เธอเป็นผู้นำ (และที่คนออสซี่อิจฉาอยากได้นายกแบบนี้ให้ออสเตรเลียบ้าง!) ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างไม่สนคะแนนนิยม ว่า "นิวซีแลนด์ไม่ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาแล้วไม่ยอมกักตัว"
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามานิวซีแลนด์ก่อนประกาศกักตัวมีผลบังคับใช้ ต้องกักตัวเองทันทีต่อจากจำนวนวันที่อยู่ในนิวซีแลนด์มาแล้ว (Balancing dates) โดยเมื่อนับระยะเวลาที่เข้าประเทศมาครบ 14 วันแล้วถึงเที่ยวต่อได้
กฎ Balancing Number of Days นี้ ให้ใช้กับผู้เดินทางเข้านิวซีแลนด์ทุกคน รวมทั้งนักเรียนนักศึกษาด้วย ทั้งที่มาเรียนระยะสั้นและระยะยาว
ดังนั้นใครที่เข้าประเทศมาก่อนวันที่ 7 มีนาคม ก็รอดตัวไปไม่ต้องกัก
ข้อมูลการติดเชื้อของนิวซีแลนด์ ณ วันที่ 16 มีนาคม 2020
พวกเราส่วนใหญ่อ่านมาถึงตรงนี้คงอาจคิดว่า ที่รัฐบาลทำถึงขนาดนี้คงเพราะนิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแบบ Exponential แล้วหรือเปล่า ?
คำตอบคือ เปล่าเลย นับถึงช่วงเที่ยงของวันที่ 16 มีนาคม นิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อยังไม่ถึงสิบคนเสียด้วยซ้ำ!
แถมหนึ่งในแปด เป็นผู้ติดเชื้อที่ได้รับการตรวจโควิดที่ออสเตรเลีย แล้วเดินทางมาที่นี่ก่อนผลตรวจจะออก (สาธารณสุขนิวซีแลนด์เขียนข้อความนี้บนหน้าเพจเลยคงด้วยความเคือง)
ก็อปคำของ NZ Health Ministry มาให้ดูเป๊ะๆ เลยด้านล่าง อ่านแล้วเห็นความหงุดหงิดขั้นสุดอยู่ระหว่างบรรทัด...
วันอังคารที่ 17 มีนาคม 2020 | TUESDAY 17 MARCH 2020
วันที่ 17 มีนาคม มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 4 คน ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมของนิวซีแลนด์ เพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 12 คน (ขึ้นหลักสิบเป็นครั้งแรก)
- โดยผู้ป่วยเคสที่ 11 และ 12 เป็นพ่อลูกกัน คนพ่อไปติดมาจากเยอรมนี แล้วนำมาติดลูกซึ่งเป็นนักเรียนชายโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งที่ Dunedin
- สองเคสนี้รีพอร์ทมาในวันเดียวกัน
- สำหรับเคสที่ 12 เป็นเคสแรกที่ผู้ติดเชื้อเป็นเด็กนักเรียน
- ส่งผลให้โรงเรียนต้องปิดทำการ 48 ชั่วโมงเพื่อทำความสะอาดใหญ่ และทำ Contact Tracing โชคดีที่เพื่อนๆ และครูไม่มีใครเป็นอะไร
- แต่ก็ทำให้ Dunedin และเกาะใต้ มีรายงานผู้ติดเชื้อเป็นครั้งแรก จากที่ก่อนหน้านี้ผู้ติดเชื้ออยู่ในเกาะเหนือทั้งหมด
วันพุธที่ 18 มีนาคม 2020 | WEDNESDAY 18 MARCH 2020
นักท่องเที่ยวไม่ยอมกักตัว Tourists seen flouting Self-Isolation
วันนี้ทั่วนิวซีแลนด์มีผู้รายงานการพบเห็นนักท่องเที่ยวในจุดต่างๆ ของประเทศ ทั้งในเมืองเล็กเมืองใหญ่ ที่ยังคงไปทานอาหารในร้านอาหาร ขับรถแคมเป้อร์แวนท่องเที่ยวไปตามไฮเวย์ หัวเราะใส่หน้าเจ้าของร้านกาแฟเมื่อถูกถามว่าเข้าประเทศมานานแค่ไหนแล้ว คนนิวซีแลนด์หัวเสียและหงุดหงิดกับมาตรการการคัดกรองที่สนามบิน ที่หลายคนพูดตรงกันว่า virtually does not exist คือไม่มีมาตรการอะไรเลย ปล่อยเข้ามาเฉยๆ ไม่มีการวัดอุณหภูมิหรือติดตามให้กักตัวอะไรทั้งนั้น
ร้านอาหารบางร้านเริ่มมาตรการช่วยเหลือตัวเองให้ปลอดจากเชื้อ และช่วยประเทศไปด้วยในตัว ด้วยการปฏิเสธไม่ให้นักท่องเที่ยวที่เห็นชัดๆ ว่าเพิ่งเข้าประเทศมา เข้ามานั่งในร้าน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะถึงร้านนี้ไม่ขาย ร้านอื่นก็ยังขายให้อยู่ดี ช่วงนี้เอเจนซี่ต่างๆ ที่ติดตามข่าวกันทั้งวันทั้งคืน จิตตกกันมาก คิดว่านิวซีแลนด์จะรอดหรือ แถมคนนิวซีแลนด์ก็ชิลล์มากไม่มีใครยอมใส่หน้ากาก และการใส่หน้ากากโดยไม่ป่วยเป็นเรื่องที่สังคมยังไม่ยอมรับ
เราได้แต่หวัง หวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวที่เข้มข้นขึ้น เพื่อปกป้องประเทศนี้ที่เป็นที่ศึกษาเล่าเรียนของนักเรียนของพวกเรา
ข่าวดังสองข่าวในช่วงนี้
จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่
สถานการณ์ดูน่าตกใจ ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นสองเท่าของวันก่อนหน้า เริ่มเห็นเคสใหม่ในเมืองหลักอื่นๆ ทั้งเกาะเหนือและเกาะใต้ ผู้ติดเชื้อหน้าใหม่เป็นเคสนำเข้าและเป็นคนนิวซีแลนด์ทั้งหมด
วันนี้มีผู้ติดเชื้อทั้งหมดทั่วประเทศรวมแล้ว 20 คน
วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม 2020 | THURSDAY 19 MARCH 2020
รัฐบาลกีวี "หนวดกระดิก" ที่มาตรการกักตัวถูกนักท่องเที่ยวต่างชาติมองเห็นเป็นเรื่องไม่สำคัญ
- ในความเป็นจริง การห้ามนักท่องเที่ยวที่มีแพลนจะท่องเที่ยวในนิวซีแลนด์แค่ 7-15 วัน ให้ทำการกักตัว ย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก หรือเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
- ยกเว้นว่านักท่องเที่ยวจะกระเป๋าหนักพอ ที่จะยืดระยะเวลาในนิวซีแลนด์ออกไปเกินกว่า 14 วัน (กักตัว 14 วัน แล้วค่อยเที่ยวตามแพลนเดิม)
- ซึ่งก็เป็นไปได้ยากอยู่ดี หากคิดว่าคนปกติคงจะต้องทำจองที่พัก รถเช่า ตั๋วเครื่องบินในประเทศกันล่วงหน้าเป็นเดือน ๆ บางคนเป็นปี
- ก่อนที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศนี้ ซึ่งไม่ได้เป็นทางผ่านไปประเทศไหนทั้งนั้น
- ถ้าต้องเปลี่ยนแพลนกลางอากาศก็คงต้องเสียเงินเพิ่มเยอะมาก และคนส่วนใหญ่ก็คงไม่มีเวลาเที่ยวเป็นเดือนๆ
อย่างไรก็ตาม เพื่อทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์และไม่ถูกมองเป็นเรื่องโจ๊ก นิวซีแลนด์ก็จึง Step up มาตรการขั้นเด็ดขาด
โดยการประกาศ ห้ามชาวต่างชาติเข้านิวซีแลนด์ ตั้งแต่เวลา 23.59 น. ของคืนวันที่ 19 มีนาคมเป็นต้นไป ซึ่งภายหลังได้ relax เป็นหลังจากเวลา 1 นาฬิกาของวันที่ 20 มีนาคม 2020
วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม 2020 | FRIDAY 20 MARCH 2020 | เริ่มวันแรกของการห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศโดยสิ้นเชิง *เข้าได้เฉพาะชาว NZ เท่านั้น*
จำนวนผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์
- จำนวนเคสสะสมจากวานนี้ (19 มีนาคม) คือ 28 เคส (เพิ่ม 8 คน เป็นวันที่สอง) มีเมืองติดเชื้อน้องใหม่เพิ่มขึ้น 3 เมือง
- จำนวนเคสใหม่วันนี้ (20 มีนาคม) คือ 11 เคส (เพิ่มขึ้น 39%) มีเมืองติดเชื้อหน้าใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1 เมือง
- สรุปเกาะเหนือติดเชื้อ 31 คน เกาะใต้ 8 คน รวมเป็น 39 คน
- ระยะเวลาที่ใช้นับจากผู้ติดเชื้อคนแรกถึงคนที่แสนใช้เวลานานกว่าสามเดือน
- แต่จากผู้ติดเชื้อแสนแรกถึงยอดสองแสน ใช้เวลาแค่ 12 วัน!
วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม 2020 | SATURDAY 21 MARCH 2020 ยกระดับการเฝ้าระวังขึ้นเป็น Level 2
สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น
ปิดประเทศก็แล้ว นักท่องเที่ยวก็ไม่ให้เข้ามาแล้ว แต่ตัวเลขก็ยังพุ่งขึ้นไม่หยุด ทำท่าจะเป็น Exponential เพราะเพิ่มขึ้นวันละ 30-40% เป็นใครก็นั่งไม่ติด!
- จำนวนผู้ติดเชื้อเมื่อวานนี้ 39 = 100%
- จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้ 52 x 100 / 39 = เพิ่มขึ้น 33%
นี่มัน 'ตัวเลขหายนะ' ชัดๆ
เวลาเที่ยงวันของวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม
นายกฯ จาซินด้า อาร์เดิร์น เปิดแถลงข่าวรอบพิเศษจากนายกสู่ประชาชน จากห้องทำงานในทำเนียบรัฐบาล
ระบุว่านิวซีแลนด์จำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นสูงขึ้นในการรับปัญหากับไวรัส
โดยแนะนำชาวนิวซีแลนด์ให้รู้จักกับ Alert Levels แนวการรับมือสี่ระดับ
และประกาศชัดเจนว่านิวซีแลนด์ต้องเข้าสู่มาตรการ Level 2 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายกฯ อาร์เดิร์นยังได้ให้แนวทางปฏิบัติสำหรับผู้สูงวัยที่มีอายุเกิน 70 ปี ซึ่งอาจมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ อยู่ก่อนหน้า หรือมีภูมิคุ้มกันโรคดีสู้หนุ่มสาวไม่ได้ ให้ "Stay at home as much as possible" และแนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางในประเทศที่ "ไม่จำเป็น"
Level 2 หมายถึงการทำให้เข้าประเทศเพิ่มระดับความเข้มงวดมากขึ้น และประชาชนควรเริ่มทำงานจากที่บ้าน ถ้าทำได้
Level 3 ซึ่งยังไม่ได้บังคับใช้ จะหมายถึงสถานที่สาธารณะต่างๆ จะต้องปิดทำการ และธุรกิจที่ไม่จำเป็นต่างๆ ต้องปิดกิจการชั่วคราว
Level 4 ซึ่งยังไม่ได้บังคับใช้ จะใช้เมื่อมีการแพร่ระบาดแบบดูแล้วควบคุมไม่ได้ และต้องตัดการติดต่อระดับบุคคลลงให้เหลือแต่สมาชิกในครอบครัว ทุกคนต้องอยู่บ้าน
นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ในทุกระดับของการบังคับใช้มาตรการ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา ร้านขายของชำ และ Supply chain ที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภค อาหาร และสิ่งที่จำเป็นในการใช้ชีวิต รวมถึงบริการสาธารณะบางรายการ ยังจะให้บริการอย่างต่อเนื่อง ประชาชนไม่จำเป็นต้องกักตุนอาหารหรือของกินของใช้ เพื่อจะทำให้ทุกคนเข้าถึงสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ
วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม 2020 | MONDAY 23 MARCH 2020
จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มจาก 66 เป็น 102 คน
The Prime Minister announces the country has moved to alert level three, effective immediately.
นิวซีแลนด์เข้าสู่การล็อคดาวน์ ตาม Alert Level ระดับ 4 เมื่อเวลา 23.59 น. ของคืนวันที่ 25 มี.ค. 2020
ในคืนล็อคดาวน์ มีเรื่องน่ารักเรื่องหนึ่งที่ต้องพูดถึง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถ้าคนธรรมดาทำก็เป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อคนระดับนายกลงมาทำ มันก็เลยเป็นไวรัลไปทั่วโลก
ดังนั้นอย่าว่าแต่ชาวโลกเลย แม้แต่คนกีวีเองก็ไม่ได้คาดหวังว่านายกรัฐมนตรีของพวกเขา จาซินด้า อาร์เดิร์น จะไลฟ์เฟสบุ้คสดๆ คุยกับคนนิวซีแลนด์นานถึงเกือบยี่สิบนาที ก่อนเวลาล็อคดาวน์จะมาถึงราวๆ 3 ชั่วโมง เพื่อตอบคำถามสดๆ ช่วยเตรียมความพร้อม เพิ่มความมั่นใจ และปลอบขวัญประชาชน!
หลังจากทำหน้าที่แม่ เอาลูกสาววัยเตาะแตะเข้านอน เราก็ได้เห็นนายกอาร์เดิร์นในอิริยาบถสบายๆ นั่งอยู่บนเตียงที่บ้านของเธอ ในชุดลำลองสวมทับด้วยเสื้อกันหนาวสีเขียวแบบเรียบง่าย ไม่มีกล้อง ไม่มีนักข่าว ไม่มีโพเดี้ยม ไม่มีสคริปท์ มีแค่เธอกับประชาชน อารมณ์เหมือนโทร.เช็คความพร้อมกับเพื่อน ก่อนเวลาสำคัญจะมาถึง...
เป็นวิดีโอเรียบง่ายที่จับหัวใจคนทั่วโลก เห็นได้จากในห้วงเวลาเพียงหนึ่งเดือนต่อมา วิดีโอนี้ได้ถูกแชร์ไปแล้วกว่า 5 ล้านครั้ง...
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อหลังจากล็อคดาวน์...พุ่งสูงขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ !
วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม 2020 | THURSDAY 26 MARCH 2020 | Day 1 of Lockdown
ถนนหนทางว่างเปล่า ในวันล็อคดาวน์วันแรกของนิวซีแลนด์
จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 78 เคส จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 283 คน
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข Ashley Bloomfield บอกว่า นิวซีแลนด์น่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อแตะหลัก "หลายพันคน" ก่อนจะถึงจุดเปลี่ยน
วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2020 | FRIDAY 27 MARCH 2020 | Day 2 of Lockdown
จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 85 เคส จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 368 คน
วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2020 | SATURDAY 28 MARCH 2020 | Day 3 of Lockdown
จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 83 เคส จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 451 คน
วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2020 | SUNDAY 29 MARCH 2020 | Day 4 of Lockdown
นิวซีแลนด์มีผู้เสียชีวิตคนแรกจากโควิด-19 เป็นสุภาพสตรีสูงวัยอายุ 70 ปี จาก West Coast Region
วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม 2020 | MONDAY 30 MARCH 2020 | Day 5 of Lockdown
จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 76 เคส นับถึงวันนี้ นิวซีแลนด์มีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 590 คน
ในจำนวนนี้ 10 คน (ประมาณ 2% ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด) ติดเชื้อจากชุมชน (Community Transmission)
วันอังคารที่ 31 มีนาคม 2020 | TUESDAY 31 MARCH 2020 | Day 6 of Lockdown
จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 58 เคส จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 647 คน ข่าวดีของวันนี้ 74 คนหายจากอาการป่วย
วันพุธที่ 1 เมษายน 2020 | WEDNESDAY 1 APRIL 2020 | Day 7 of Lockdown
จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 61 เคส จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 708 คน ข่าวดีของวันนี้ 82 คนหายจากอาการป่วย
วันนี้มีจำนวนผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลทั้งสิ้น 14 คน โดยมี 2 คนอยู่ใน ICU แต่อาการไม่น่าเป็นห่วง
วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน 2020 | THURSDAY 2 APRIL 2020 | DAY 8 of Lockdown
จำนวนผู้ป่วยใหม่ของวันนี้คือ 89 คน ซึ่งเป็นจำนวนเพิ่มที่สูงที่สุดที่เคยเห็นใน 1 วัน จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 797 คน
วันศุกร์ที่ 3 เมษายน 2020 | FRIDAY 3 APRIL 2020 | Day 9 of Lockdown
จำนวนผู้ป่วยใหม่ 71 เคส จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 868 คน
วันเสาร์ที่ 4 เมษายน 2020 | SATURDAY 4 APRIL 2020 | Day 10 of Lockdown
จำนวนผู้ป่วยใหม่ 82 เคส จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 950 คน
รัฐบาลนิวซีแลนด์ออกมาแถลงว่าการล็อคดาวน์ประเทศจะยังไม่เห็นผลจนกว่าจะถึงวันที่ 10-12 ของการล็อคดาวน์ และนี่เพิ่งจะเป็นวันที่ 10!
จำนวนผู้ป่วยใหม่ลดลงเหลือ 67 เคส นับถึงวันนี้นิวซีแลนด์ได้เทสต์หาโควิดไปแล้วเกือบ 40,000 ครั้ง ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อแล้วเกิน 1 ล้านคน และเสียชีวิตไปแล้วเกือบ 70,000 คน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ Boris Johnson ติดเชื้อและต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
ระหว่างเซสชั่นแถลงข่าวประจำวันที่ทำเนียบในวันนี้ นายกอาร์เดิร์นได้แจ้งข่าวดีที่เด็กๆ นิวซีแลนด์ทั่วประเทศกำลังตั้งตาฟัง เรื่องที่ว่าอีสเตอร์จะถูกยกเลิกไหม พวกเขายังคงไปล่าไข่อีสเตอร์กันได้อยู่ไหม ยังจะได้กินช็อคโกแลตอีสเตอร์อร่อยๆ กันอยู่หรือเปล่า รวมทั้งนางฟ้าฟันจะมาเยี่ยมเด็กๆไหม
นายกได้แจ้งกับเด็กๆชาวกีวี ในรายการที่ออกอากาศสดไปทั่วประเทศนี้ ว่าเธอได้เพิ่มเติม Tooth Fairy (นางฟ้าฟัน) และ Easter Bunny (กระต่ายอีสเตอร์) เข้าไปในลิสต์ Essential worker (ผู้ที่ได้รับยกเว้นให้ทำงานสำคัญจำเป็น) ในระหว่างล็อคดาวน์แล้ว เพื่อที่พวกนางฟ้าและกระต่ายจะได้ทำหน้าที่ได้ตามปกติในวันอาทิตย์อีสเตอร์ที่กำลังจะมาถึง และว่าแต่ว่าในสถานการณ์แบบที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่นี้ "บันนี่อาจไม่ได้สามารถไปได้ครบทุกที่และอาจไม่ได้มาปรากฎตัวที่บ้านของทุกคน" ดังนั้นแทนที่จะออกไปล่าไข่อีสเตอร์ตามปกติ "Maybe you draw an Easter egg and pop it into your front window and help children in your neighborhood with their own Easter egg hunt - ถ้าพวกคุณช่วยกันวาดรูปไข่อีสเตอร์แล้วแปะตรงหน้าต่างหน้าบ้านให้คนที่ผ่านไปมาได้เห็น นั่นจะช่วยให้เด็กๆ ในชุมชนของคุณยังสามารถเล่นเกมล่าไข่อีสเตอร์ได้อยู่"
ภายหลังนายกได้โพสต์รูปไข่อีสเตอร์บนเฟสบุ้คและอินสตาแกรมของเธอ เพื่อที่เด็กๆจะได้ดาวน์โหลดและระบายสี "as part of the Big New Zealand Easter Egg Hunt" และนายกยังได้ติดแฮชแท็ก #NZEggHunt ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นเทรนด์สำหรับเด็กๆ และผู้ใหญ่เข้ามาโพสต์ภาพระบายสีของพวกเขา หนึ่งในภาพ Top Posts บนอินสตราแกรม วาดโดย Neve ลูกสาววัยขวบครึ่งของจาซินด้าเอง
วันเสาร์ที่ 11 เมษายน 2020 | SATURDAY 11 APRIL 2020 | Day 17 of Lockdown
จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่กลับมาลดลงอีกครั้ง วันนี้อยู่ที่ 29 เคส ทั้งประเทศเศร้ารับอีสเตอร์กันอีกครั้งด้วยจำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิตใหม่อีก 2 ราย ซึ่งเป็นผู้สูงอายุทั้งคู่ รายแรกเป็นชายสูงวัยอายุ 80 จากเมืองเวลลิงตัน อีกคนหนึ่งเป็นชายอายุ 70 ปี ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเบอร์วู้ดในเมืองไคร้สทเชิร์ช ซึ่งผู้เสียชีวิตรายที่สี่ของนิวซีแลนด์คนนี้ มาจากบ้านพักคนชราแห่งเดียวกับผู้เสียชีวิตรายที่ 2 ที่เป็นหญิงอายุ 90's และเสียชีวิตเพียงวันเดียวก่อนหน้า
วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน 2020 | SUNDAY 12 APRIL 2020 | Day 18 of Lockdown
จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้ลดลงถึงสิบกว่าเคส อยู่ที่ 18 เคสเท่านั้น และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
ในวันล็อคดาวน์วันที่ 18 นี้ นิวซีแลนด์มีจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 1330 คน
วันจันทร์ที่ 13 เมษายน 2020 | MONDAY 13 APRIL 2020 | Day 19 of Lockdown
จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ของวันนี้ยังรักษาระดับใกล้เคียงกับเมื่อวาน อยู่ที่ 19 เคส
วันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 1 คน เป็นชายสูงวัยอายุ 80's ปี มาจากบ้านพักคนชรา Rosewood Resthome แห่งเดียวกับผู้เสียชีวิตรายที่ 2 และ 4
จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมนับถึงวันนี้อยู่ที่ 1348 คน 15 คนอยู่ในโรงพยาบาล 546 คนหายดีแล้ว
นับถึงวันนี้นิวซีแลนด์มีผู้เสียชีวิตรวม 5 คน (1 คน เมื่อ 29 มีนาคม และ 4 คน ระหว่าง 10-13 เมษายน) ทั้งหมดเป็นผู้สูงวัยอายุระหว่าง 70-90 ปี ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนหน้า กระทรวงสาธารณสุขกำลังสืบสวนว่าผู้ชราเหล่านี้ติดเชื้อมาจากที่ไหนและติดได้อย่างไร หรือจากใคร
วันอังคารที่ 14 เมษายน 2020 | TUESDAY 14 APRIL 2020 | Day 20 of Lockdown
จำนวนและอายุของผู้ติดเชื้อ
ข้อมูลเวลา 9.00 น. วันที่ 15 เมษายน 2020 | วันที่ 21 ของการล็อคดาวน์
- นิวซีแลนด์มี clusters (การติดเชื้อแบบกล่มก้อน) ทั้งสิ้น 16 คลัสเตอร์
- เมื่อวานนี้มีการเทสต์หาโควิด-19 ไป 4,241 ครั้ง รวมเป็นการเทสต์ทั้งหมด 65,196 ครั้ง คิดเป็น 12.0 ครั้ง ต่อประชากรทุกๆ 1,000 คน
- มีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และผู้ให้บริการสาธารณสุขติดเชื้อโควิด-19 แล้วจำนวน 128 คน โดยครึ่งหนึ่งได้รับเชื้อจากนอกสถานที่บริการสาธารณสุข
- นิวซีแลนด์ผ่านการล็อคดาวน์สัปดาห์ที่ 3 ไปได้อย่างสวยงามเกินคาด (จำนวนผู้ติดเชื้อลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ และผู้หายจากอาการมีมากกว่าครึ่ง)
- วันพุธ 22 เมษายน เป็นวันสิ้นสุดการบังคับใช้ล็อคดาวน์ระดับ 4
- รัฐบาลจะประกาศในวันจันทร์ที่ 20 เมษายน เวลา 13.00 น. NZT ว่าตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนเป็นต้นไป ประเทศจะใช้มาตรการล็อคดาวน์ระดับเดิม (Level 4) หรือลดลงเป็น Level 3 และหากลงลงเป็น L3 อะไรที่เปิดได้หรือเปิดไม่ได้
- ซึ่งหากประกาศใช้ Level 3 น่าจะเป็นการประกาศใช้แค่ 2 สัปดาห์ - เหตุผล เนื่องจากระยะฟักตัวของไวรัส คือ 2 สัปดาห์ ดังนั้น จึงจะมีการทบทวนทุกๆ 2 สัปดาห์
สาระสำคัญของ Level 3 เท่าที่มีการประกาศออกมา ณ ขณะนี้
- ALERT Level 3 เอื้อให้ธุรกิจบางประเภทสามารถเริ่มกลับมาทำการได้ (แต่รัฐบาลบอกว่าถ้าสามารถทำงานอยู่กับบ้านได้ก็ดีกว่า)
- การจัดงานศพ และงานแต่งงาน จะสามารถทำได้ จำกัดจำนวนคนเข้าร่วมไม่เกิน 10 คน แต่ห้ามจัดเลี้ยง (ห้ามมีเลี้ยงอาหาร)
- โรงเรียนจะอนุญาตให้เปิดได้จนถึง Year 10 (อายุ 5-14 ปี) เพื่อเป็นการรองรับการที่พ่อแม่ต้องกลับไปทำงาน (นิวซีแลนด์ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 14 อยู่บ้านตามลำพัง)
- เด็กนักเรียนอายุ 15 ปีขึ้นไป (รร มัธยม Year 11-13) จะยังคงปิดทำการต่อไปและนักเรียนจะเรียนออนไลน์จากที่บ้าน
- สถาบันการศึกษารูปแบบอื่น ยังไม่มีประกาศออกมา คาดว่าหลังจากวันจันทร์ (วันจันทร์บ่าย/ภายในวันอังคารที่ 21 เมษายน) แต่ละที่จะเริ่มทยอยออกประกาศ
- อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ (U of Auckland) มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ เป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกที่ออกมาประกาศว่า ไม่ว่าประเทศจะใช้ Lockdown Level อะไร UoA จะสอนออนไลน์ต่อไปตลอด Semester 1 นี้ จนกว่ามหาวิทยาลัยจะเปิดเทอม S2 ในเดือนกรกฎาคม เพราะการที่มหาวิทยาลัยจะปิด-เปิด ตาม Alert Level ที่ยังปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์ไวรัสที่ไม่แน่นอน เป็นเรื่องที่ disruptive ต่อการเรียนมากเกินไป
Alert level 4
Campuses close, remote learning as currently.
Alert level 3 As for level 4, plus some teaching and learning on campus if the university is confident level 3 is stable and sustainable. Research activity allowed where approved by deans, assuming health and safety restrictions can be met.
Alert level 2 Campuses re-opened for all activities (but no earlier than beginning of Semester 2) but with physical distancing and other precautionary measures.
Alert level 1 Same as for Level 2.
สถานการณ์โควิด-19 ที่นิวซีแลนด์ ประจำวันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2020 | วันที่ 26 ของการล็อคดาวน์ ณ เวลา 9.00 น. NZT
- โรงเรียนมัธยม 1 กลุ่ม (93 คน - Auckland)
- งานแต่งงาน 2 กลุ่ม (109 คน - Bluff & Wellington )
- บ้านพักคนชรา 5 กลุ่ม (116 คน - Auckland x 2 , Christchurch x 2 , Waikato x 1)
- ที่ทำงาน 1 กลุ่ม (10 คน - Christchurch)
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ (สหรัฐอเมริกา) 2 กลุ่ม (32 คน - Wellington, Auckland)
- ประชุมสัมมนา 1 กลุ่ม (39 คน - Queenstown)
- จัดเลี้ยงอื่นๆ 1 กลุ่ม (38 คน - Auckland)
- เรือสำราญ 1 กลุ่ม (22 คน - Ruby Princess)
- ชุมชน (30 คน - Auckland)
- โรงแรมที่พัก 1 กลุ่ม (76 คน - Matamata, Waikato)
"...Antarctica New Zealand has a close partnership with the New Zealand Defence Force
who support our operations on ice, so it is important to be able to remember the sacrifice
made by members of our military all those years ago..."
Sarah Williamson - Antarctica New Zealand Chief Executive